การทำการตลาดคือการที่เอาสินค้า และ บริการ เข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภคผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ไม่ว่าจะเป็น รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ยิ่งแบรนด์มีเอกลักษณ์มากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้แบรนด์ถูกจดจำได้ดีมากเท่านั้น
หนึ่งในประสาทสัมผัสทั้ง 5 ที่น่าสนใจชวนหลงไหล และดึงดูดนั่นคือทางด้าน กลิ่น จากผลการวิจัยด้านกลิ่นจากมหาวิทยาลัยมหิดล ได้กล่าวไว้ “กลิ่นหอม” ช่วยส่งผลให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้ามากขึ้นถึง 70% และจากผู้ให้บริการที่ทำการตลาดด้วย “กลิ่น” ต่างยอมรับว่า “กลิ่นหอม” สามารถกระตุ้นความรู้สึกของผู้รับบริการ ให้มีความรู้สึกถึงคุณภาพของสินค้า และ บริการที่มีมากกว่าเดิม ช่วยบำบัดอารมณ์ของผู้ใช้บริการให้ดีขึ้นได้ ช่วยสร้างความทรงจำของลูกค้าต่อแบรนด์จนเกิดผลสำเร็จ และจากการวิจัยพบว่ากลิ่น ช่วยส่งผลให้ธุรกิจประสบความสำเร็จมากขึ้นกว่าปกติถึง 30%
ถ้านึกไม่ออก iam ขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพกัน ลองจินตนาการภาพตามกันนะคะ ถ้าตอนนี้เราอยากทานกาแฟมาก ๆ แต่สถานที่ที่เราอยู่ ณ ปัจจุบัน นั้นไม่คุ้นเคย รู้เพียงแค่ในบริเวณรัศมี 100 เมตร มีร้านกาแฟ สิ่งแรกที่คุณสัมผัสได้อาจจะเป็นกลิ่นกาแฟอันหอมกรุ่น จนคุณต้องเดินตามไปชิมให้ได้
หรืออีกตัวอย่างชวนหิว คิดภาพคุณกำลังเดินอยู่ในห้างที่มีร้านค้ามากมาย และเวลานั้นเป็นเวลาเที่ยงตรงพอดี ท้องก็ร้องแต่ไม่รู้อยากทานอะไร ถ้ามีกลิ่นสุดแสนประทับใจจากร้านอันคุ้นเคยลอยมาสิ่งแรกที่คุณทำคืออาจจะเดินเข้าร้านนั้นทันที
เทียบกันแล้วกลิ่นหอมนั้นก็จะมีความใกล้เคียงกับเสียงดนตรี ที่มีช่วงจังหวะของตัวโน๊ต บ่งบอกถึงท่วงทำนองในการสื่อสาร แต่เพียงแค่ 2 สิ่งนี้ แตกต่างกันที่ประสาทที่ใช้รับสัมผัส
โดยปกติแล้วน้ำหอมที่มีด้วยกัน 3 ระดับ กลิ่นแรก (first impression) กลิ่นกลาง (main character) กลิ่นท้ายสุด (true desire) โดยการผสมผสานกลิ่นทำให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและความกลมกล่อมของกลิ่น ซึ่งโน๊ตของกลิ่นมีอยู่ด้วยกัน 3 ระดับประกอบด้วย
เป็นกลิ่นที่ระเหยออกมาเมื่อฉีดน้ำหอมในช่วงแรก ส่วนใหญ่เป็นแนวกลิ่นสดชื่นแบบส้ม มะนาว หรือดอกไม้กลิ่นนี้จะอยู่ได้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง
กลิ่นของน้ำหอมที่กระจายกลิ่นเต็มที่ เป็นกลิ่นที่บ่งบอกบุคลิกของน้ำหอมอย่างชัดเจน ส่วนผสมจะคัดสรรเป็นพิเศษเพื่อให้โดดเด่น แตกต่างกัน ส่วนใหญ่จะเป็นกลิ่นไม้หอม และดอกไม้ที่หายาก ราคาค่อนข้างสูงกลิ่นในระดับนี้จะคงความหอมติดผิวได้นาน 2-4 ชั่วโมง
เป็นกลิ่นที่ติดผิวได้นานที่สุด ผสมผสานเข้ากับกลิ่นกายเป็นบุคลิกของผู้ใช้ โดยปกติกลิ่นในระดับพื้นฐานจะแสดงกลิ่น หลังจาก 4 ชั่วโมง ต่อมา และจะค่อย ๆ จางหายไป ส่วนใหญ่มักจะเป็นกลิ่นแนวมัสก์หรืออำพัน
สุดท้ายแล้วเรื่องของกลิ่น เป็นเรื่องของการจินตนาการที่ถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึก ยิ่งต่างคน ต่างประสบการณ์ ความชอบ และความหลงไหลก็แตกต่างกันไปแล้วกลิ่นไหน ที่จะใช่เหมาะกับคุณ
สำหรับคนที่ชื่นชอบบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสนชื่น สงบ ๆ นั่งจิบชาสบาย ๆ อยู่บนเขาที่อากาศไม่เย็นมาก กลิ่นที่เข้ากันและบอกตัวตนคุณได้แก่
กลิ่นฮิตมากที่สุดใครดมก็ติดใจ ใช้เดี่ยวก็ได้ผสมกับกลิ่นก็ดี แนะนำเพื่อนๆ ลองหยิบกลิ่น bergamot หรือ lemon มาผสมกัน อะไรจะดีไปกว่าการที่นั่งจิบชารับแสงแดดอ่อนๆ ยามบ่าย ชิคแอนด์ชิล ทีเดียว
กลิ่นที่ทำให้เพื่อนๆ จินตนาการไปถึงเช้าวันใหม่ แบบหญ้าอ่อนๆ โดนน้ำค้างในยามเช้า
ใครอยากสดชื่นแบบซีตรัส แต่มีมิติด้วยกลิ่นใบไม้แซม ๆ จะขอแนะนำกลิ่นนี้เลย
เป็นกลิ่นที่หญิงใช้ได้ ชายใช้ดี เพื่อนๆ หลายคนลองใช้ timber rock เป็นกลิ่น base เอามาผสมกับกลิ่นอื่นที่เป็นกลิ่น top และ middle จะทำให้มีมิติของกลิ่นมากขึ้น ทำให้กลิ่นที่ได้อบอุ่นขึ้นทันที
สำหรับคนที่อยากสร้างความสดใส อยากได้กลิ่นแบบหวานๆ น่ารักๆ เชิญชวนให้เข้ามาใกล้ด้วยกลิ่นอันหอมละมุน ต้อง 2 กลิ่นนี้เลยค่ะ
กลิ่นเรียบหรู ผู้ดี หอมอบอวล ประหนึ่งกำลังอยู่ท่ามกลางมวลหมู่ดอกไม้ในสวนประเทศอังกฤษ
สายเบเกอรี่ สายคาเฟ่ ต้องกลิ่นนี้เลยค่ะ เป็นกลิ่นหอมหวานละมุนของแอลมอนด์ พราลีน
สำหรับคนที่ต้องการความลึกลับชวนค้นหา ยิ่งเข้าใกล้ ยิ่งน่าหลงใหลดั่งต้องมนต์สะกด แบบละสายตาไปไหนไม่ได้ กลิ่นที่เข้ากันและบอกตัวตนคุณได้แก่
กลิ่นเย้ายวน ชวนขี้อ้อน ดูอ่อนโยน กลิ่นนี้ไม่ใช่แต่เพื่อนๆผู้หญิงที่หยิบมาใช้ได้นะคะ เพื่อนๆ ผู้ชายก็ชอบมาใช้ผสมกับกลิ่นอื่นด้วย
กลิ่นเปรี้ยวอมหวาน sport นิดๆ เข็ดฟันหน่อยๆ แต่ก็แฝงกลิ่นที่ชวนค้นหา จากกลิ่นช่วง top notes ที่มีลักษณะเปรี้ยวซ่าน่ารัก
สุดท้ายแล้วเรื่องของกลิ่น เป็นเรื่องของการจินตนาการที่ถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึก ยิ่งต่างคน ต่างประสบการณ์ ความชอบ และความหลงไหลก็แตกต่างกันไปแล้วกลิ่นไหน ที่จะใช่เหมาะกับคุณ
guru mim apapond (กูรูมิ้ม)
หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ |
@iamingredient
ติดตามโปรโมชั่นพิเศษและเคล็ดลับดีๆ
iam in และ iam academy