‘กลิ่นหอม’ เป็นสิ่งที่สูดดมเข้าไปแล้วคงทำให้ใครหลาย ๆ คนรู้สึกสดชื่น และมีชีวิตชีวา ความนิยมในเรื่องกลิ่นนั้นมีมาอย่างยาวนาน จะเห็นได้ว่าผู้หญิงในสมัยก่อนชอบนำดอกจำปีมาติดผม หรือนำดอกมะลิมาผสมน้ำ เชื่อว่ากลิ่นหอมมีผลต่อการสร้างความประทับใจกับผู้ใกล้ชิด เพราะสิ่งนี้จึงทำให้น้ำหอม และน้ำมันหอมระเหยถูกสร้างขึ้น ว่าแต่ 2 สิ่งนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร บทความนี้ ไอแอมจะมาเล่าให้ทุกคนฟังกันค่ะ
อโรมาเธอราพี หรือ สุคนธบำบัด มาจากคำว่า สุคนธ์ แปลว่า กลิ่นหอม และบำบัด แปลว่า การรักษาเยียวยา ภูมิปัญญาที่มีมาอย่างยาวนาน ได้หยิบยกความพิเศษของธรรมชาติมาสกัดกลิ่นเป็นน้ำมันหอมระเหย เกิดจากความเชื่อว่าเป็นเสโท (เหงื่อ) ของเทพเจ้า คนจึงนิยมนำมาพรมบนตัว เพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคล วัฒนธรรมการประพรมน้ำหอมเริ่มเป็นที่แพร่หลายในกลุ่มชนชั้นสูง เพื่อสื่อถึงฐานะในสังคม ต่อมาได้แพร่ความนิยมไปสู่คนทั่วไป จึงมีการคิดค้นสูตรน้ำหอมกลิ่นใหม่ ๆ ขึ้น เพื่อใช้บำบัดความตึงเครียด จะสังเกตได้ว่าขณะที่เราไปร้านสปาที่ไหน ๆ มักจะได้กลิ่นสมุนไพรตกแต่งสถานที่ เพื่อปรับอารมณ์ให้ผ่อนคลายนั่นเองค่ะ
น้ำหอม (perfume) ทำมาจากสารประกอบที่ให้กลิ่นหอม แอลกอฮอล์ และน้ำ ความหอมจะขึ้นอยู่กับกลิ่นกาย อุณหภูมิร่างกายแต่ละคน ทำให้กลิ่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวต่างกันออกไป ปัจจุบันมีการพัฒนาเรื่องกลิ่นให้มีความหลากหลายตามรสนิยม น้ำหอมมีอิทธิพลต่อความรู้สึกของผู้ได้กลิ่น สามารถเพิ่มแรงดึงดูดในตัวคุณได้อย่างน่าประหลาดใจ นิยมนำมาบรรจุในขวดสเปรย์ เพื่อความสะดวกในการใช้งาน ควรฉีดในปริมาณที่พอดี หากมากเกินไปอาจจะทำให้กลิ่นฉุนจนเวียนหัวได้ อีกทั้งน้ำหอมยังอยู่ในชีวิตประจำวันของเราตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น เครื่องสำอาง ผงซักฟอก สเปรย์ปรับอากาศ ฯลฯ ไอแอมขอบอกเลยว่า น้ำหอมไม่ใช่สิ่งที่ไกลตัวเราอีกต่อไป
น้ำมันหอมระเหย (essential oil) เป็นการนำพืช และสมุนไพรมาสกัดด้วยไอน้ำ เพื่อกลั่นหาน้ำมันที่มีกลิ่นหอม น้ำมันจากพืชบางชนิด เช่น ตะไคร้ มะกรูด สามารถนำมาผสมน้ำมันมะพร้าว เพื่อนวดร่างกายแก้อาการปวดเมื่อยได้ โดยกลิ่นน้ำมันจากพืชบางชนิดก็สามารถคลายเครียด สร้างความผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี เช่น ยูคาลิปตัส ตะไคร้ นิยมนำมาผสมเทียน หรือน้ำอุ่นเพื่อสูดดมกลิ่น ช่วยในเรื่องอาการนอนไม่หลับ คลายความเครียด เป็นวิธีง่าย ๆ ที่ใครก็สามารถทำตามได้ นอกจากนี้ ความพิเศษของน้ำมันหอมระเหยได้ถูกนำมาเป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยกับเด็ก ผู้สูงอายุ สัตว์เลี้ยง และสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ไอแอม ได้ทำตารางสรุปข้อแตกต่างของน้ำหอม และน้ำมันหอมระเหย พร้อมทั้งข้อดี และข้อพึงระวังมาให้กับทุกคนด้วยนะคะ
น้ำหอมจะทำมาจากสารเคมี มีความติดทน ปรับระดับความเข้มข้นได้ตามการใช้งาน ไม่เหมาะกับการสูดดมโดยตรง เพราะอาจเกิดสารตกค้างในร่างกายได้ ในส่วนของน้ำมันหอมระเหย เป็นการสกัดน้ำมันจากพืชสมุนไพรธรรมชาติ กลิ่นติดทนปานกลาง ทั้งยังมีส่วยช่วยในการบำบัดความเครียดได้ แต่ไม่ควรสัมผัสโดยตรง ทั้งสองชนิดมีความหลากหลายของกลิ่นเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ไม่มีผิดหรือถูก ว่าจะเลือกใช้ ‘น้ำหอม’ หรือ ‘น้ำมันหอมระเหย’ เพราะขึ้นอยู่กับโอกาส สถานที่ และรสนิยมของแต่ละบุคคล ไอแอมเชื่อว่าทุกคนจะได้รู้จัก 2 สิ่งนี้มากขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกที่จะลองหาอะไรใหม่ ๆ ให้กับตัวเองกันนะคะ
สำหรับใครที่เป็นสาวกคนรักสปา ไอแอมบอกเลยว่าห้ามพลาด ! ขอแนะนำ ‘pro class aromatherapy (spa product)’ คลาสเรียนที่จะพาคุณไปสัมผัสกระบวนการสกัดน้ำมันหอมระเหย รังสรรค์ผลิตภัณฑ์สปา สำหรับทำทรีตเมนต์ ที่คุณสามารถออกแบบสูตรเฉพาะที่สปาของคุณเองได้ หากไม่มีประสบการณ์ คลาสนี้จะสอนเริ่มต้นจาก 0 จนคุณทำเป็นด้วยตัวเองอย่างแน่นอน และสามารถกดลิงก์เพื่อดูข้อมูลคอร์สเรียนเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3pd4l0m หรือ line official: @iamingredient
guru mim apapond (กูรูมิ้ม)
หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ |
@iamingredient
ติดตามโปรโมชั่นพิเศษและเคล็ดลับดีๆ
iam in และ iam academy