กลยุทธ์ทางการตลาดในปัจจุบัน มีหลากหลายรูปแบบในลักษณะของแบรนด์ที่มีสินค้าต่างออกไป ลูกค้ามักจะชอบและถูกใจในสินค้าที่มีลักษณะสวยงาม หรือ มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน การทำการตลาดที่จะช่วยดึงดูดผู้บริโภคได้ดีนั้น จะต้องเข้าถึงการรับรู้ด้านประสาทสัมผัสของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็น รูป รส กลิ่น เสียง และการสัมผัส เพื่อให้สินค้า และ บริการเป็นที่ถูกจดจำได้มากขึ้น
scent marketing คือ กลยุทธ์ทางการตลาดโดยใช้ “กลิ่น” เป็นแรงดึงดูดให้ลูกค้าสามารถจดจำได้ถึงความรู้สึก หรือเรื่องราวของเหตุการณ์ ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น สถานที่ ผู้คน หรือ สินค้า ตัวอย่างเช่น ร้านแว่นตา เนื่องจากร้านแว่นตาส่วนใหญ่สามารถรอรับสินค้าได้ ภายใน 20 - 30 นาที ลูกค้าอาจเกิดอาการเบื่อที่จะรออยู่ภายในร้าน การออกแบบกลิ่นภายในร้าน สามารถช่วยให้ลูกค้าเกิดความผ่อนคลายและรู้สึกสบาย ไม่เกิดอาการเบื่อในการรอรับสินค้า ผสมผสานกับการตกแต่งร้านที่ไปในโทนเดียวของกลิ่น เช่น ใช้กลิ่นชาขาว ตกแต่งร้าน และเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้ ทำให้ลูกค้าสามารถจดจำถึงเอกลักษณ์ของแบรนด์ได้ชัดเจน เมื่อลูกค้าสนใจและสามารถจดจำแบรนด์ได้เพิ่มขึ้น ยอดขายของสินค้าก็จะมีมากขึ้นเช่นกัน
สามารถกระตุ้นให้เกิด การตัดสินใจซื้อต่อสินค้า เพิ่มมากขึ้น และช่วยให้สามารถจดจำแบรนด์ได้ดีกว่าการสัมผัสในรูปแบบอื่น มีผลงานการวิจัยของ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้กล่าวว่า “กลิ่นหอม” ช่วยส่งผลให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้ามากขึ้นถึง 70% และทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จมากขึ้นกว่าปกติถึง 30% จากการสร้างความทรงจำของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์
เลือกใช้กลิ่นที่ให้ความรู้สึกเฟรช รู้สึกสปอร์ต เจาะกลุ่มลูกค้าที่สนใจในเรื่องของกีฬา ทำให้ลูกค้าเพลิดเพลินในการเลือกซื้อสินค้า และสร้างเอกลักษณ์ให้ลูกค้าสามารถจดจำตัวแบรนด์เพิ่มขึ้นได้ นอกจากนี้ยังมีผลการวิจัยของ ดร.อลัน เฮิร์สซ์ นักประสาทวิทยาและจิตแพทย์ ได้ทำการวิจัยกลิ่นเพื่อสร้างความจดจำและการรับรู้ โดยมีการจำลองร้านรองเท้า nike ที่มีลักษณะเหมือนกัน จำนวน 2 ร้าน ทั้งโทนสี แสงไฟ และสินค้า
แตกต่างกันเพียงแค่ ร้าน a มีกลิ่นหอมของดอกไม้ ซึ่งร้าน b ไม่มีกลิ่นหอม และได้มีการส่งผู้สำรวจเข้าไปชมรองเท้าของทั้งสองร้าน หลังจากการเข้าชมรองเท้าแล้วพบว่า 84% ของผู้เข้าชม ชื่นชอบร้านที่มีกลิ่นหอมของดอกไม้ของร้าน a มากกว่า b ทั้ง ๆ ที่สินค้าเป็นชนิดเดียวกัน จะเห็นได้ว่าการการใช้กลิ่นสามารถสร้างอิทธิพลความสนใจ ภาพลักษณ์และความประทับใจแก่ลูกค้าได้
แบรนด์ร้านกาแฟที่ใครหลายคนรู้จักกันดี โดย starbucks มีการใช้กลิ่นภายในร้านเป็นกลิ่นของกาแฟ จากการบดเมล็ดกาแฟให้ส่งกลิ่นหอมกระจายไปทั่วร้าน ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกดื่มด่ำกับบรรยากาศภายในร้าน เพิ่มการจดจำกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ได้ และสร้างโอกาสให้ยอดขายสินค้าเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน
ธุรกิจสปาจะมีการเลือกใช้กลิ่นอโรมาเธอราพี หรือ น้ำมันหอมระเหยบำบัด เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ที่เข้ามาใช้บริการที่ชอบความผ่อนคลาย อย่างเช่น panpuri wellness ใช้กลิ่น
ยูคาลิปตัส หรือ กลิ่นกระดังงา ที่เป็นกลิ่นหลักของสปา อีกทั้งยังมีการตกแต่งร้านที่มีการใช้แสงไฟโทนอุ่น เพื่อเพิ่มความสงบและผ่อนคลายช่วยให้บรรยากาศของร้านมีความรื่นรมย์เหมาะกับการพักผ่อนกายและเยียวยาจิตใจให้แจ่มใสมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนเลยว่ากลยุทธ์การใช้กลิ่นนั้น สามารถสร้างความประทับใจ และช่วยเพิ่มโอกาสให้ธุรกิจมีกลุ่มลูกค้าเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
iam ให้ความสำคัญของการตลาดด้วยกลิ่นเป็นอย่างมาก นับว่าเป็นอาวุธสำคัญที่สามารถพิชิตใจลูกค้าได้และยังมีการเปิดสอน สำหรับผู้ที่สนใจในกลยุทธ์ทางการตลาดด้วยกลิ่นหอม ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจถึงหลักการตลาดด้วยกลิ่นเพิ่มมากขึ้น และยังได้รับความรู้ในการปฏิบัติจริงในการทำ workshop eau de perfume, solid perfume, และ reed diffuser ให้ได้รับความรู้ทั้งทางทฤษฎีและภาคปฏิบัติ พร้อมยังมี e-certificate ของคลาส scent marketing workshop การันตีความรู้ที่ได้รับ หลังจบหลักสูตร
guru mim apapond (กูรูมิ้ม)
หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ |
@iamingredient
ติดตามโปรโมชั่นพิเศษและเคล็ดลับดีๆ
iam in และ iam academy