how to ดูแลบ้านอย่างไรให้กลิ่นหอมสดชื่น ตลอดเวลา

หลาย ๆ คนอาจต้องใช้เวลาอยู่ที่บ้านกันมากขึ้น นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงทำให้การใช้ชีวิตจากเดิมที่ได้ออกไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ข้างนอก และได้ปรับไลฟ์สไตล์มาใช้เวลาอยู่ที่บ้านเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานแบบ work from home, การทำกิจกรรม การเรียน การสังสรรค์แบบออนไลน์ ฯลฯ ทำให้ต้องอยู่ที่บ้านเป็นระยะเวลานาน จึงอาจส่งผลให้หลายคนรู้สึกอุดอู้ รู้สึกไม่มีชีวิตชีวา เหมือนเดิม บทความนี้ ไอแอมจึงมีเทคนิคดี ๆ ที่จะเปลี่ยนบ้านให้น่าอยู่ และสร้างความสดชื่นเพิ่มความสดใสให้กับทุกคนกันค่ะ

 

5 เคล็ดลับดูแลบ้านอย่างไรให้กลิ่นหอมสดชื่น

 

ทำความสะอาดบ้านลดกลิ่นอับ

 



การความสะอาด นับว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้คนหันมาใส่ใจกันมากขึ้นส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และหากต้องการสร้างสภาพแวดล้อมภายในบ้านให้น่าอยู่ ควรมีการทำความสะอาดมุมต่าง ๆ ที่อาจละเลยเป็นเวลานาน เช่น ชั้นเก็บของ เฟอร์นิเจอร์ และถือโอกาสในการคัดแยกสิ่งของที่ไม่จำเป็น ไม่ได้ใช้เป็นเวลานาน หรือไม่มีโอกาสที่จะได้ใช้ เช่น เสื้อผ้าที่ตกเทรนด์ไปแล้ว ข้าวของ ถุงพลาสติก กล่องกระดาษ ที่เก็บไว้ โดยคัดแยกสิ่งของเหล่านี้เพื่อนำไปทิ้ง หรือ นำไปบริจาค เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้พื้นที่บ้านสะอาดไม่ส่งกลิ่นอับ อีกทั้งการที่จัดบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อยจะช่วยในเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกที่ทำให้มีความมั่นคงและสบายใจยิ่งขึ้น

 

เปิดหน้าต่างระบายอากาศ


 

ด้วยสภาพอากาศที่ร้อน บางครั้งการที่ต้องเปิดแอร์เป็นประจำเวลาอยู่ที่บ้านทำให้ต้องปิดประตูและหน้าต่างอยู่เสมอ ส่งผลให้อากาศภายในบ้านไม่ถ่ายเททำให้บ้านมีกลิ่นอับ แนะนำให้จัดช่วงเวลาที่ปิดแอร์ เช่น ช่วงเวลาเช้า หรือ เย็น ที่อากาศไม่ร้อนมาก โดยการเปิดม่านและหน้าต่าง เพื่อให้ลมจากภายนอกช่วยระบายอากาศให้พัดเข้ามาถ่ายเทอากาศเก่าออกไป และรับอากาศที่สดชื่นเข้ามา แต่ไม่ควรเปิดประตู หน้าต่างนานเกินไป เพราะอาจมีปัญหาเรื่องฝุ่นที่เข้ามาได้

 

ปลูกต้นไม้ในห้องสร้างความร่มรื่น

 

 

หลาย ๆ คนที่เมื่ออยู่แต่บ้าน หรือ คอนโดอาจทำให้รู้สึกไม่สดชื่น การปลูกต้นไม้ที่ช่วยฟอกอากาศจะลดการเกิดกลิ่นอับ และได้รับอากาศที่บริสุทธิ์มากขึ้น โดยต้นไม้ที่นิยมปลูกในบ้าน เช่น พลูด่าง ลิ้นมังกร ว่านหางจระเข้ ยางอินเดีย มอนสเตร่า ไทรใบสัก ฯลฯ จะช่วยให้ภายในบ้านน่าอยู่อีกทั้งอยู่ช่วยให้รู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติ และได้รับอากาศที่ปลอดโปร่งรู้สึกสบายตามากยิ่งขึ้น

 

ใช้เครื่องฟอกอากาศ ลดฝุ่นและกำจัดเชื้อโรค

 

 

นับตั้งแต่ช่วงของการเกิดวิกฤตฝุ่น PM 2.5 เครื่องฟอกอากาศถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องมีติดบ้านเลยก็ว่าได้ โดยภายในห้องต่าง ๆ ของบ้านอาจมีเชื้อโรค และ แบคทีเรีย ที่ปะปนในอากาศ และฝุ่นขนาดเล็ก การใช้เครื่องฟอกอากาศ เป็นวิธีที่จะช่วยให้อากาศกลับมาบริสุทธิ์ขึ้น ซึ่งมีให้เลือกใช้ได้ตามความต้องการ ตั้งแต่ขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่ รวมถึงตัวกรองสำหรับดับกลิ่นสัตว์เลี้ยง นอกจากจะช่วยลดกลิ่นอับแล้วยังดีต่อผู้ที่เป็นภูมิแพ้ ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคทางเดินหายใจอีกด้วย

 

ใช้กลิ่นหอมสร้างบรรยากาศที่สดชื่น


 

เคล็บลับสุดท้ายคือ การใช้กลิ่นหอมสร้างบรรยากาศที่สดชื่น โดยตัวช่วยในการกระจายกลิ่นหอม(diffuser) ซึ่งมีหลากหลายประเภทให้เลือกขึ้นอยู่กับความชอบและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เช่น

  • เครื่องพ่นกระจายความหอม สำหรับใครที่ชอบความสะดวก และ กลิ่นหอมที่กระจายอย่างรวดเร็ว เหมาะกับพื้นที่ขนาดกลาง เช่น ห้องนอน ห้องทำงาน ซึ่งสามารถกระจายกลิ่นได้ระยะ 20 - 30 ตารางเมตร 
  • เตาอโรม่า เน้นความเรียบง่าย ช่วยสร้างบรรยากาศให้รู้สึกผ่อนคลาย เป็นเครื่องกระจายกลิ่นด้วยความร้อน เช่น การหลอมด้วยเทียนหรือเปลวไฟ แนะนำให้วางไว้ในที่ไม่มีลมพัด และไม่จุดเทียนปล่อยทิ้งไว้
  • ก้านไม้หอม กระจายกลิ่นไปในอากาศอีกทั้งให้กลิ่นอย่างสม่ำเสมอ เพราะไม่ต้องจุดไฟหรือเปิดสวิตช์เพื่อใช้งาน หากใครที่มีภาวะเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ อาการภูมิแพ้ โรคหอบหืด แพ้ฝุ่น หรือ เขม่าควันต่าง ๆ ก้านไม้หอม นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากไม่มีควันหรือละอองลอยออกมากระตุ้นอาการแพ้นั้นได้

 

สำหรับใครที่สนใจการสร้างกลิ่นหอมด้วยตนเองที่มีเฉพาะหนึ่งเดียวในโลก iam ขอแนะนำ home fragrance workshop คลาสเรียนที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าใจกระบวนการทำน้ำหอม และ สร้างสรรค์น้ำหอมที่เป็นเอกลักษณ์ สัมผัสประสบการณ์ทำน้ำหอมด้วยตัวเองผ่าน reed diffuser และ room spray ที่สามารถนำไปต่อยอดธุรกิจได้อีกด้วย

 

@iamingredient

ติดตามโปรโมชั่นพิเศษและเคล็ดลับดีๆ
iam in และ iam academy

add-friend-line-iamingredient


related video