กลิ่นเป็นความรู้สึกที่เก่าแก่ และ มีวิวัฒนาการมากที่สุดของมนุษย์ ในปัจจุบัน หลายแบรนด์เลือกที่จะใช้กลิ่นเพื่อเป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการตลาดสำหรับดึงดูด สร้างความสุข และเพิ่มโอกาสในการขายสินค้า
 
การวิจัยจาก scentair พบว่า การตลาดด้วยกลิ่นสามารถเพิ่มยอดขายร้านค้าปลีกได้ 11% และสามารถเพิ่มคะแนนความพึงพอใจของลูกค้า 20%

การทำตลาดด้วยกลิ่น (scent marketing) คืออะไร?

การทำตลาดด้วยกลิ่นนั้น เกี่ยวข้องกับการใช้น้ำหอม หรือ กลิ่นหอมจะส่งผลต่อประสบการณ์ที่ลูกค้าจะได้รับแตกต่างกันไป ผลสำรวจจาก mood media กลิ่นที่เหมาะสมในร้านค้าจะสร้างภาพจำและสื่อถึงกลิ่นอายเอกลักษณ์ของแบรนด์ได้เพิ่มขึ้นประมาณ 75% ซึ่งการตลาดด้วยกลิ่นจะมีความสำคัญต่อการกระตุ้นยอดขายในร้าน

 

สำหรับธุรกิจที่มีหน้าร้าน มีหลายองค์ประกอบที่ส่งผลต่อความสำเร็จของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างบรรยากาศที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ที่ขาย สถานที่ การตกแต่ง ชุดพนักงาน แสง ศิลปะ อุณหภูมิ ดนตรี และกลิ่น องค์ประกอบทั้งหมดนี้จะรวมกันเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ประทับใจ ส่งมอบให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้สินค้า และ บริการ 

 

ผู้คนจะมีการจดจำที่แตกต่างกันออกไป โดยการจดจำด้วยภาพ จะลดลงประมาณ 50% หลังจากผ่านไปเพียง 3 เดือน แต่ในทางกลับกัน การจดจำด้วยกลิ่น แม้จะเวลาจะผ่านไปถึง 1 ปี ยังสามารถจดจำอย่างแม่นยำถึง 65% 

 

ประโยชน์ของกลิ่นที่ส่งผลต่อการลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ:

• เชื่อมโยงความทรงจำ กลิ่นที่น่าจดจำทำให้ลูกค้าจำร้านของคุณได้
• มีโอกาสที่สามารถเพิ่มยอดขายได้มากขึ้นสำหรับร้านค้าที่เลือกใช้กลิ่นได้ตรงกับภาพลักษณ์ของแบรนด์
• กลิ่นอันที่คุ้นเคย จะทำให้นึกถึงภาพอารมณ์และความรู้สึกต่าง ๆ จาก ประสบการณ์ที่เคยผ่านมา ส่งผลให้ตัดสินใจซื้อในครั้งต่อไปง่ายมากขึ้น

 

จะเห็นได้ว่ากลิ่นช่วยส่งผลต่อธุรกิจเป็นอย่างมากในหลาย ๆ มิติ ซึ่งถ้าสำหรับธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้น หรือที่มีงบประมาณน้อยสามารถเริ่มต้นด้วยตัวกระจายกลิ่น และ น้ำมันหอมระเหย ซึ่งสามารถศึกษากระบวนการทำได้ที่ iam acdemy

 

ศาสตร์แห่งกลิ่นสำคัญอย่างไร ?

olfaction หรือการรับรู้กลิ่นของเรา เป็นความรู้สึกซึ่งมีวิวัฒนาการมากที่สุด มีส่วนที่อยู่ด้านเดียวกับสมองที่เก็บอารมณ์และความทรงจำ เพราะฉะนั้นหากคุณได้รับกลิ่นอันคุ้นเคย จะทำให้นึกถึงภาพอารมณ์และความรู้สึกต่าง ๆ จากประสบการณ์ที่เคยผ่านมา

 

ผู้ใหญ่สามารถแยกแยะกลิ่นต่าง ๆ ได้ถึง 10,000 กลิ่น และร่างกายของเราจะสร้างเซลล์ประสาทรับกลิ่นทุก ๆ สองสามสัปดาห์เพื่อสร้างการจดจำ ซึ่งแตกต่างจากประสาทสัมผัสอื่น ๆ โดยที่กลิ่นจะเดินทางผ่านส่วนต่าง ๆ และเข้าสู่สมองทันที 

 

วิดีโอคอนเทนต์ จาก ted talk ปี 2013 เพื่อให้เห็นภาพกระบวนการทำงานสำหรับจิตวิทยาของกลิ่น และทำให้เห็นถึงความสำคัญของกลิ่นมากยิ่งขึ้น

 

จะเห็นได้ว่ากลิ่นเป็นความรู้สึกที่เชื่อมโยงกับความทรงจำมากที่สุดถ้าให้นึกภาพที่คุณกำลังสูดกลิ่นหอมของกาแฟยามเช้า คุณอาจจะรู้สึกสัมผัสถึงกลิ่นของเมล็ดกาแฟคั่วสดจะพุ่งเข้าไปในส่วนต่าง ๆ ของสมองที่มีหน้าที่ในการประมวลผลทางอารมณ์ และ ความจำ

 

ตามที่อธิบายในวิดีโอด้านบน ระบบประสาทสัมผัสอื่น ๆ ของเรานั้น เช่น การมองเห็น และ การได้ยินจะต้องผ่านศูนย์ส่งต่อบริเวณตรงกลางของสมอง (relay center) แล้วจึงค่อยส่งต่อไปยังสมองส่วนอื่น ๆ  ซึ่งแตกต่างจากการรับรู้ด้านกลิ่น ที่จะส่งสัญณาณผ่านเส้นประสาทการรับกลิ่นไปสู่สมองโดยตรงทำให้สามารถรับรู้ได้ทันทีนั้นเป็นเหตุผลที่กลิ่นสามารถกระตุ้นความทรงจำที่มีความสุขได้เร็วกว่า การแตะแก้วกาแฟร้อน หรือ รับรสการชิมกาแฟในครั้งแรก

 

ทำไมผู้ประกอบการจึงควรทำการตลาดด้วยกลิ่น

กลิ่นนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมากและช่วยเสริมในด้านการทำการตลาดเป็นอย่างดี เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ผู้คนสามารถจดจำแบรนด์ได้ ผ่านการรับรู้และความทรงจำที่เคยได้สัมผัส ซึ่งสามารถเชื่อมโยงความรู้สึกกับประสบการณ์ได้ดีมากที่สุดกรณีศึกษาจาก nike พบว่า การตลาดด้านกลิ่นในร้านส่งผลให้ “มีความตั้งใจที่จะซื้อเพิ่มขึ้น 80%” หรือจากผลในการทดลองการตลาดด้วยกลิ่นหอมกลิ่นของกาแฟสดที่ปั๊มน้ำมันเพิ่มยอดขายกาแฟได้ถึง 300%

 

ประเทศในเอเชีย เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และประเทศอื่น ๆ ล้วนมีส่วนสำคัญในการทำให้เอเชียแปซิฟิกเป็นตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดสำหรับน้ำหอมในตลาดโลก ซึ่งน้ำหอมแบบพกพาได้รับความนิยมเนื่องจากสะดวกในการพกพาและสามารถใช้ได้ทุกที่ทุกเวลา

 

สำหรับใครที่สนใจศึกษากระบวนการทำการตลาดด้วยกลิ่นสามารถเข้าร่วม workshop หรือขอคำปรึกษาเพิ่มเติมกับทาง iam ได้ที่ https://bit.ly/3h8vunl

ติดตามรายละเอียดตาราง workshop ของ iam ได้ที่ https://bit.ly/32zqhpb

 

guru mim apapond (กูรูแจน) หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์

 

@iamingredient

ติดตามโปรโมชั่นพิเศษและเคล็ดลับดีๆ
iam in และ iam academy

​​​​​​​